skip to Main Content

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ชายผู้สร้างตำนาน

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ชายผู้สร้างตำนาน

ชายผู้สร้างตำนานให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และวลีเด็ดของเขา เฟอร์กี้ไทม์

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คือผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลสหราชอาณาจักร โดยคว้าแชมป์มาครองได้เกือบ 40 รายการ รวมถึงพรีเมียร์ ลีก 13 สมัย ตลอดการคุมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของเขา

ufabet

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เข้ามายังโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในปี 1986 ก่อนที่จะประกาศวางมือไปเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2012/13
เขาเคยค้าแข้งมาก่อนที่สกอตแลนด์ โดยเล่นให้กับควีนส์ พาร์ค, เซนต์ จอห์นสโตน, ดันเฟิร์มลิน, กลาสโกว์ เรนเจอร์ส, ฟัลเคิร์ก และอายร์ ยูไนเต็ด แต่ช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จที่สุดในวงการฟุตบอลของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นั้นยังมาไม่ถึง

หลังจากที่แขวนสตั๊ด เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ไปรับงานโค้ช โดยเริ่มต้นอาชีพผู้จัดการทีมที่ อีสต์ สเตอร์ลิงเชียร์, เซนต์ เมียร์เรน จากนั้นก็เป็น อเบอร์ดีน ซึ่งที่นี่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้รับการยอมรับเป็นโค้ชระดับท็อป โดยพาทีมปาดหน้าคว้าแชมป์ในประเทศ สก็อตแลนด์ โดยเป็นแชมป์ลีก 3 สมัย, สก็อตติช คัพ 4 สมัย, ลีก คัพ และยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ อีกอย่างละสมัย

หลังจาก รอน แอตกินสัน ถูกไล่ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1986 เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ได้เข้ามานั่งเก้าอี้ในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ทันที

ในตอนที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เข้ามาคุมทีม เป็นช่วงที่แฟนบอลหมดศรัทธากับนักเตะในทีมชุดนี้อย่างมาก เนื่องจากหล่นอยู่ถึงอันดับที่ 4 จากท้ายตารางดิวิชั่น 1 หน้าที่แรกของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จึงต้องเป็นการพาทีมหนีการตกชั้นให้ได้ และแม้ว่าจะไม่ได้เสริมทัพ เลยในช่วงเปิดตลาด แต่เขาก็ยังพาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จบอันดับที่ 11 ได้

หลังจากนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เป็นทีมที่เล่นได้อย่างสนุกตื่นเต้น แต่ก็ยังไม่มีความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน และในฤดูกาลที่ 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ดีขึ้น โดยเป็นอันดับ 2 ตามหลัง ลิเวอร์พูล แต่การจบอันดับสูงขนาดนั้นก็ตามมาด้วยความคาดหวังที่สูง และจุดเปลี่ยนก็มาถึงในฤดูกาล 1989/90

ในรายการเอฟเอ คัพ ฤดูกาลนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถูกจับฉลากให้ต้องออกไปเยือนทุกรอบ และสามารถคว้าแชมป์รายการแรกในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้สำเร็จ โดย ลี มาร์ติน ยิงประตูโทนในนัดชิงชนะเลิศ นัดรีเพลย์ เอาชนะคริสตัล พาเลซ คว้าแชมป์ไปครอง
และเมื่อได้ถ้วยแรกมาแล้ว แชมป์อื่นก็ตามมาอย่างไม่ขาดสาย ฤดูกาลต่อมาทีมคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ ไปครองได้อีกที่ ร็อตเตอร์ดัม เป็นการเอาชนะ บาร์เซโลน่า 2-1 ต้องขอบคุณประตูจาก มาร์ค ฮิวจ์ส จากนั้นในฤดูกาล 1991/92 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ได้แชมป์ลีก คัพ มาประดับบารมีเพิ่มอีก

ยังเหลืออีกถ้วยหนึ่งที่เหมือนเป็นจอกศักดิ์สิทธิ์สำหรับแฟนๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นก็คือแชมป์ลีกที่พวกเขารอคอยกันมา 26 ปี โดยต้องตกอยู่ภายใต้ร่มเงาของลิเวอร์พูลมาโดยตลอด

และในฤดูกาล 1992/93 การรอคอยอันยาวนานก็สิ้นสุดลง ทีมปีศาจแดงสามารถคว้าแชมป์ลีกมาครองได้สำเร็จ โดยได้รับอิทธิพลจากการย้ายเข้ามาด้วยค่าตัว 1 ล้านปอนด์ของ เอริค คันโตน่า

จากนั้นความสำเร็จก็หลั่งไหลเข้ามา ฤดูกาล 1993/94 ทีมสามารถทำดับเบิ้ลแชมป์ได้ จากนั้นก็มาทำซ้ำได้อีกในฤดูกาล 1995/96 และก็คว้าแชมป์ลีกเพิ่มได้ในปี 1997 ถึงตรงนี้เป็นอันว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ผงาดขึ้นมาครองความยิ่งใหญ่แทนที่ลิเวอร์พูลไปเรียบร้อยแล้ว

ผลงานที่ยอดเยี่ยม

ผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เกิดขึ้นในฤดูกาล 1998/99 โดยก่อนหน้านี้ไม่เคยมีทีมไหนที่คว้าแชมป์ทั้งพรีเมียร์ ลีก, เอฟเอ คัพ และยูโรเปี้ยน คัพ ได้มาก่อนเลย ที่น่าจดจำก็คือค่ำคืนที่ บาร์เซโลน่า เขาตัดสินใจส่งตัวสำรองอย่าง เท็ดดี้ เชอริงแฮมและ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ลงสนาม หลังจากนั้นทุกอย่างก็คือประวัติศาสตร์ ทั้งคู่ช่วยกันยิงประตูให้ทีมพลิกกลับมาคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ เป็นการเติมเต็มการคว้า 3 แชมป์โดยสมบูรณ์

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้รับยศอัศวินหลังจากความสำเร็จครั้งนั้น และบางคนก็เริ่มมองแล้วว่าเขากำลังจะก้าวลงจากตำแหน่ง โดยเชื่อว่าความท้าทายของเขาได้หมดลงไปเรียบร้อยแล้ว แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย ในฤดูกาลต่อมาคือ 1999/2000 เขาพาทีมคว้าแชมป์ลีก และมาในฤดูกาล 2000/01 ก็ทำได้อีก ทำให้ทีมเป็นแชมป์ 3 สมัยติด แชมป์พรีเมียร์ ลีก สมัยที่ 8 ของเขามาถึงในฤดูกาล 2002/03 ส่วนแชมป์เอฟเอ คัพ สมัยที่ 5 ก็ต้องรอในปีต่อมา เมื่อไปคว้าชัยถึงคาร์ดิฟฟ์ด้วยการเอาชนะมิลล์วอลล์ในนัดชิงชนะเลิศ

ถึงตรงนี้ทีมปีศาจแดงก็อยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายทีมชุดใหม่ หลังจากหมดยุคนักเตะที่เขาสร้างมากับมือในฤดูกาล 1995/96 เขาเริ่มคว้าตัวนักเตะอย่าง เวย์น รูนี่ย์ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เข้ามาเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในยุคใหม่

ทีมชุดใหม่นี้เริ่มต้นด้วยการคว้าแชมป์คาร์ลิ่ง คัพ 2005/06 จากนั้นก็ได้แชมป์พรีเมียร์ ลีก สมัยที่ 9 ในฤดูกาล 2006/07 ในเดือนพฤษภาคม 2007 เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้คว้าเอานักเตะใหม่ 3 คนเข้ามาสู่ทีมคือ แอนเดอร์สัน, หลุยส์ นานี่ และ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ทำให้ทีมยิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปอีก และก็สามารถป้องกันแชมป์พรีเมียร์ ลีก ได้ในฤดูกาล 2007/08 แถมยังสุดยอดไปกว่านั้นด้วยการคว้าแชมป์ยุโรปเป็นสมัยที่ 2 สำหรับตัวเขาเอง โดยนักเตะใหม่ทั้ง 3 คนดังกล่าวสามารถยิงเข้าประตูในช่วงดวลจุดโทษที่เอาชนะเชลซีไปได้ในนัดชิงชนะเลิศ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังประสบความสำเร็จต่อเนื่องด้วยการคว้าแชมป์สโมสรโลกที่ญี่ปุ่นในเดือนธันวาคม 2008 จากนั้นทีมปีศาจแดงก็คว้าแชมป์คาร์ลิ่ง คัพ ได้ในเดือนมีนาคม 2009 โดยเอาชนะท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ไปด้วยการดวลลูกจุดโทษในรอบชิงชนะเลิศ

วันที่ 16 พฤษภาคม 2009 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ทำภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ให้ลุล่วงจนได้ หลังจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก้าวเข้ามาในปี 1986 เขาตั้งใจจะทาบสถิติแชมป์ลีกสูงสุด 18 สมัยของลิเวอร์พูล และก็มาทำได้สำเร็จในฤดูกาล 2008/09 โดยถือเป็นแชมป์ลีกสมัยที่ 11 ของ เซอร์ อเล็กซ์ จากการคุมทีมทั้งหมด 17 ฤดูกาลด้วย ถือเป็นอะไรที่สุดยอดจริงๆ

และมันก็ยิ่งดีไปกว่านั้นในอีก 2 ปีต่อมา โดยคว้าแชมป์ลีกเหนือเชลซี โดยก่อนหน้านั้นในปี 2010 พวกเขาทำได้เพียงแค่แชมป์รายการเดียวคือ คาร์ลิ่ง คัพ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก ได้สำเร็จด้วยลูกจุดโทษของ รูนี่ย์ ซัดใส่ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส และทีมปีศาจแดงก็แซงหน้าสถิติแชมป์ลีกสูงสุดของลิเวอร์พูลได้สำเร็จ

และในฤดูกาล 2012/13 ซึ่งถือเป็นฤดูกาลสุดท้ายสำหรับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เขาพาทีมคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 20 ไปครองในขณะที่ยังเหลือเกมให้ลงเล่นอีก 4 เกม

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังคงมีส่วนเกี่ยวข้องกับสโมสรอยู่ ถึงแม้ว่าจะก้าวลงจากตำแหน่งผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปแล้ว เขาได้รับตำแหน่งเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหาร และก็ยังเป็นทูตสโมสรอีกด้วย

สรุป

หากต้องการแทงบอลออนไลน์ แนะนำเลยที่ ufabet เว็บพนันออนไลน์ที่ดีที่สุดในตอนนี้ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษจัดให้เต็มที่ทุกวันต้องที่นี่เท่านั้น คลิกเลย!!!

ประวัตินักเตะคนอื่นๆ และประวัติทีมฟุตบอล (อัพเดทเรื่อยๆ)

 

Back To Top