เรอัล มาดริด ยอดทีมจากดินแดนกระทิงดุผู้เป็นเจ้าแห่งยุโรป
เรอัล มาดริด ยอดทีมจากดินแดนกระทิงดุผู้เป็นเจ้าแห่งยุโรป
สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด หรือ ที่คนไทยจะเรียกกันจนติดปากว่า ราชันย์ชุดขาว เป็นอีกหนึ่งขั้วอำนาจของวงการลูกหนังที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งอยู่ภายในประเทศสเปน มีสถานที่ตั้งอยู่เมืองหลวง เรียกได้ว่าเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดทีมหนึ่งของสโมสรโลก ที่มีนักเตะเก่งระดับพระเจ้าประทานหมุนเวียนเข้าสู่เขตแดนแห่งราชันย์อย่างไม่ขาดสาย คว้าแชมป์ลาลีกามากถึง 33 สมัย โคปา เดล เรย์ 19 ครั้ง ซุปเปอร์โคปา 10 ครั้ง และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 13 สมัย และนอกจากนี้ยังคงเป็นสโมสรเดียวที่ป้องกันแชมป์ 3 สมัยติดหลังจากปี 2000 นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2000 ทางฟีฟ่าได้จัดให้ เรอัล มาดริดเป็นสโมสรที่ดีที่สุดแห่งศตวรรษที่ 20
จุดเปลี่ยนสำคัญ
โดยจุดเปลี่ยนสำคัญของสโมสรอยู่ในช่วงที่จบสงครามโลกครั้งที่ 2 ทาง ซานเตียโก เบร์นาเบว เยสเต ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานของสโมสร เรอัล มาดริด พร้อมทั้งสร้างสนามกีฬา โดยใช้ชื่อว่า เอสตาดีโอชามาร์ติน ทั้งยังเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ทางการเงินและนักเตะด้วยการซื้อ อัลเฟรโด ดี สเตฟาโน หนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดตลอดกาลของ เรอัล มาดริด (ซึ่งเป็นชนวนที่ทำให้ชาวกาตาลุนย่าเกลียดนายพลฟรังโก้และเป็นประเด็นร้อนในศึก เอล กลาซิโก้)
จนปี 1955 การแข่งขันนิทรรศการของทีมชั้นนำในยุโรปได้เกิดขึ้น เป็นที่รู้จักกัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากนั้นเองที่ทำให้เรอัล มาดริด แสดงความเป็นเจ้ายุโรป ด้วยการเป็นแชมป์ 5 สมัยซ้อน (1956-1960) และ ยังคงได้แชมป์อีกครั้งในปี 1966 ส่วนในลา ลีกา สเปน ทาง เรอัล มาดริดได้แชมป์ต่อเนื่อง 5 สมัยเช่นกัน (1961-1965) ก่อนที่จะถูก แอตฯ มาดริด คว้าแชมป์ ในปี 1966 แต่หลังจากนั้น ในปี 1967-1969 ก็เป็น เรอัล มาดริด ที่คว้าแชมป์ลีกอีกครั้ง และภายในช่วงที่ ซานเตียโก เบร์นาเบว เยสเต ดำรงตำแหน่งประธานอยู่ ได้นำพาให้ เรอัล มาดริด ได้แชมป์ลีก ถึง 16 ครั้ง เมื่อมาถึงวันที่ 2 กรกฎาคม ค.ศ. 1978 ประธานสโมสร ซานเตียโก เบร์นาเบว ได้เสียชีวิตลง และทาง เรอัล มาดริดได้ประกาศใช้ชื่อ สนามเหย้าเป็น เอสตาดีโอซานเตียโก เบร์นาเบว เพื่อเป็นการให้เกียรติประธานสโมสรคนเก่า
แต่ยุคที่สร้างชื่อให้กับ เรอัล มาดริด มากที่สุดคงไม่พ้นในปี 2000 ที่กวาดซื้อนักเตะชื่อดังจากทั่วโลกภายใต้โปรเจ็ค กาลาติกอส โดยมีนักเตะชื่อดังมากมายตบเท้าเข้าร่วมโปรเจ็คนี้ทั้ง ซีเนอดีน ซีดาน , เดวิด เบ็คแฮม ,โรนัลโด้ , หลุยซ์ ฟิโก้ , โคลด มาเกเลเล่ แถมยังมีลูกหม้อของสโมสรอย่าง ราอูล กอนซาเลส , อิเกร์ คาซิยาส , กูติ ทำให้ เรอัล มาดริด ในตอนนั้นกลายเป็นยอดทีมที่พร้อมจะกระชากแชมป์ทุกรายการที่ลงเล่น
แต่ก็เหมือนเรื่องตลกของสโมสร เรอัล มาดริด จากการย้ายออกไปของนักเตะเพียงคนเดียว คือ โคลด มาเกเลเล่ ที่เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับ หลังจากนั้นก็กลายเป็นยุคล่มสลายของ กาลาติกอส ไปเรียบร้อยจน ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสรในตอนนั้นถึงกับต้องประกาศลาออกจากตำแหน่งโดยทันทีถึงแม้ว่าเขาจะกลับขึ้นมานั่งตำแหน่งประธานสโมสรได้อีกครั้ง แต่เรื่องนี้จะเป็นตราบาปให้กับตัวเขาไปอีกแสนนานเลย
แน่นอนว่า ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ที่ได้กลับขึ้นมาตำแหน่งเดิมอีกครั้งก็หวังจะสร้าง กาลาติกอส ขึ้นมาอีกครั้ง โดยมีนักเตะชื่อดังหลายคนทั้ง เซร์ฆิโอ รามอส , เปเป้ , คริสเตียโน่ โรนัลโด้ , ซาบี อลอนโซ่ , คาริม เบนเซม่า , ริคาร์โด้ กาก้า ,อาร์เยน ร็อบเบน แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบความสำเร็จภายใต้ชุดสีขาวที่ได้ชื่อว่า ราชัน และ กาลาติกอส รุ่นที่สองก็เหมือนจะยังเทียบเคียงรุ่นแรกไม่ได้เลย
และจุดเปลี่ยนสำคัญของสโมสรก็มาถึงอีกครั้งภายใต้การกลับมาของ ซีเนอดีน ซีดาน ในฐานะผู้จัดการทีม โดยได้พาทีม เรอัล มาดริด กวาดรางวัลมาอย่างมากมายเพียงแค่การคุมทีม 3 ปีเท่านั้นและเกรียติยศที่จะสร้างชื่อให้กับชายผู้เป็นตำนานของฝรั่งเศสอย่าง ซีเนอดีน ซีดาน ไปตลอดกาลนั่นคือการพาทีม เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 สมัยติดต่อกันแน่นอนว่าผลงานแบบนี้คงไม่มีผู้จัดการทีมคนไหนจะทำได้อีกแล้ว
สรุป
หากต้องการแทงบอลออนไลน์ แนะนำเลยที่ ufabet เว็บพนันออนไลน์ที่ดีที่สุดในตอนนี้ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษจัดให้เต็มที่ทุกวันต้องที่นี่เท่านั้น คลิกเลย!!!
ประวัตินักเตะคนอื่นๆ และประวัติทีมฟุตบอล (อัพเดทเรื่อยๆ)